ชป.ร่วมประชุมติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 2/2563

 

 
58576175 2943953845677636 397152889966952448 n
58704232 2943954725677548 2257902781824237568 n
 

 

 

 

วันที่ 15 กันยายน 2563 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 2/2563 พร้อมด้วยรองประธานกรรมการ ได้แก่ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี โดยมี นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. ในฐานะกรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วย ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน คณะผู้บริหารกรมชลประทาน คณะกรรมการฯ และที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ณ อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรุงเทพมหานคร
 
สำหรับการประชุมในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการกลั่นกรองโครงการฯ เพิ่มเติมในภารกิจของคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการฯ การดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่อยู่ในโครงการติดตามและขับเคลื่อนฯ จำนวน 88 โครงการ โดยแบ่งเป็นโครงการที่มีพระราชดำริโดยตรง จำนวน 26 โครงการ และโครงการที่เกิดจากราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือ (ฎีกา) จำนวน 62 โครงการ จากการติดตามและขับเคลื่อนโครงการของคณะกรรมการฯ ทั้ง 4 ภาค สามารถขับเคลื่อนโครงการโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และกรมชลประทาน ไปแล้ว จำนวน 56 โครงการ และอยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 25 โครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ติดปัญหาด้านต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาพื้นที่ จำนวน 11 โครงการ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 4 โครงการ และพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 7 โครงการ
 
ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาโครงการที่จะนำมาบรรจุในภารกิจของคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนฯ ในพื้นที่ 2 ลุ่มน้ำ คือ 1)โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 9 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดลพบุรี ขนาดความจุรวม 67.46 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 55,220 ไร่ และ 2)โครงการพัฒนาแหล่งน้ำสองฝั่งลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 15 โครงการ อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี ขนาดความจุรวม 14.61 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 12,030 ไร่
 
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้สรุปผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 87 โครงการ นับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 – สิงหาคม 2563 โดยแบ่งเป็นโครงการที่มีพระราชดำริโดยตรงซึ่งเป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 23 โครงการ ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีฎีกาที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือ จำนวน 64 โครงการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณไปแล้ว จำนวน 30 โครงการ โดยโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยต้นยางพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โครงการก่อสร้างฝายเก็บกักน้ำคลองท่ากระจายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และโครงการก่อสร้างฝายบ้านเขาแดงพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
 
ทั้งนี้ องคมนตรี และคณะฯ ได้ร่วมกันพิจารณา หาแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ยังติดปัญหา รวมทั้งการพัฒนาต่อยอดโครงการฯ เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดประโยชน์สุขกับราษฎรอย่างยั่งยืนโดยทั่วกัน ต่อไป