องคมนตรี ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก

 

398173013 732993625541911 8718692622949915516 n

398109137 732993588875248 1847148916451587124 n

 

       วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ นายศุภรัชต์ อินทราวุธ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายวรวุฒิ เนียมน้อย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก นายชลเทพ ทาตรี ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 3 นางสาวจันทร์จิรา อักษรณรงค์ ผู้อำนวยการส่วนติดตามและประเมินผล กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก
ในการนี้ ผู้แทนกรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมในประเทศ สถานการณ์น้ำจังหวัดพิษณุโลก แผนการเพาะปลูกของจังหวัดพิษณุโลก สถานการณ์แอลนิโญ การบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งและการเตรียมพร้อมรับมือ ปี 2566/2567 และผลการดำเนินการโครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกด้วย
 
โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อนเรศวร ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ได้มีพระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทานข้อหนึ่งว่า “…ควรพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างเขื่อนเก็บน้ำแควน้อยที่ อำเภอวัดโบสถ์ โดยเร่งด่วนและควรให้เก็บน้ำได้อย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง และสามารถจัดหาน้ำสนับสนุนโครงการชลประทานพิษณุโลก โครงการชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ ให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์ต่อไป…” โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเปิดโครงการเขื่อนแควน้อย เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2546 และกำหนดแผนดำเนินการด้านการก่อสร้างเป็นระยะเวลา 10 ปี (พ.ศ.2546 - 2555) หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็น เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ซึ่งหมายถึง เขื่อนแควน้อยที่ทำให้มีความเจริญขึ้นในเขตพื้นที่
โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนฯ เป็นโครงการอ่างเก็บน้ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเขื่อ 3 ตัว ได้แก่ เขื่อนแควน้อยเป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต (CFRD) เขื่อนสันตะเคียนเป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว และเขื่อนปิดช่องเขาต่ำเป็นเขื่อนดินถมแบ่งส่วน (Zoned Dam) ปิดกั้นลำน้ำแควน้อยที่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก สามารถเก็บกักน้ำได้ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อส่งน้ำให้กับโครงการชลประทานริมแม่น้ำแควน้อยตอนล่างทั้งฝั่งขวาและซ้าย ช่วยบรรเทาอุทกภัยที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ประมาณ 75,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและกิจการประปา 8 แห่ง 4,350 ครัวเรือน และสนับสนุนการใช้น้ำภาคอุตสาหกรรม อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูกทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง 155,166 ไร่ และช่วยเสริมระบบชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน ประมาณ 250,000 ไร่ มีกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน แบ่งเป็นกลุ่มบริหาร 1 กลุ่ม กลุ่มพื้นฐาน 542 กลุ่ม สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำ จำนวน 4,540 ราย เพื่อให้ราษฎรบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดส่งผลให้มีรายได้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
 
ช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 52 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการด้านแหล่งน้ำ 29 โครงการ 2.โครงการด้านการเกษตร 5 โครงการ 3.โครงการด้านสิ่งแวดล้อม 2 โครงการ 4.โครงการด้านการส่งเสริมอาชีพ 3 โครงการ 5.โครงการด้านคมนาคม/สื่อสาร 1 โครงการ 6.โครงการด้านสวัสดิการสังคม/การศึกษา 7 โครงการ 7.โครงการบูรณาการ/อื่นๆ 5 โครงการ และติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พื้นที่จังหวัดพิษณุโลกที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการฝายกั้นลำน้ำภาคพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก 2.โครงการระบบประปาบ้านโคกผักหวานพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลชาติตระการ อำเภอชาติตระการ จังหวะดพิษณุโลก ในการนี้ องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไปa