กรมชลฯ เดินหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ แหล่งน้ำต้นทุนแห่งใหม่ของชาวเมืองน่าน

 

 
image-1
 
 
 
 
กรมชลประทาน เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ จังหวัดน่าน ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการ เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุน สนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้พี่น้องชาวเมืองน่าน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลผาทอง ได้ขอให้กรมชลประทานพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรในเขตพื้นที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งอยู่เป็นประจำ กรมชลประทาน จึงได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อปี 2560 และคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ (คชก.) ให้ความเห็นชอบรายงาน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 64 ต่อมาคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มีมติเห็นชอบโครงการฯ เมื่อ 30 มิ.ย. 65 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติดำเนินโครงการฯ

สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ พร้อมระบบส่งน้ำ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ได้กำหนดแผนดำเนินโครงการฯไว้ 7 ปี (พ.ศ. 2567 – 2573) ลักษณะโครงการฯ เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว ความจุที่ระดับเก็บกัก 52.31 ล้าน ลบ.ม. พร้อมก่อสร้างระบบชลประทาน ชนิดท่อส่งน้ำและคลองส่งน้ำดาดคอนกรีต ความยาวรวมกว่า 88 กิโลเมตร หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้อีกกว่า 16,000 ไร่ และสนับสนุนน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานเดิมอีกกว่า 19,558 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 8 ตำบลของอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน นอกจากนี้จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่ออุปโภคบริโภค และช่วยรักษาระบบนิเวศในพื้นที่ โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 6,300 ครัวเรือน ซึ่งเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้ที่มากขึ้นให้กับเกษตรกร และยังพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่