

วันที่ 21 ก.ค. 2565 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร นายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 นายสมเดช ศรีวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการเร่งระบายน้ำของสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ได้เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลาก ในกรณีปริมาณน้ำฝนและน้ำเหนือไหลมาสมทบกัน จนระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง จะทำการพร่องน้ำในคลองชายทะเล โดยใช้สถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมคลองชายทะเล เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล พร้อมควบคุมระดับน้ำภายในคลองให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งใช้อาคารชลประทาน บริหารจัดการน้ำไม่ให้หลากเข้าไปในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการเฝ้าระวังระดับน้ำในคลองแสนแสบ คลองประเวศน์บุรีรมย์ และคลองสำโรง หากมีระดับน้ำสูงกว่าระดับเฝ้าระวัง จะประสานไปยังสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อระบายน้ำออกทางแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนระบายลงสู่อ่าวไทยตามลำดับ นอกจากนี้ ยังใช้สถานีสูบน้ำหลักริมคลองชายทะเลทั้ง 9 แห่ง ที่มีอัตราระบายน้ำรวมกันประมาณ 227 ลบ.ม/วินาที หรือประมาณ 19 ล้าน ลบ.ม./วัน เร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติม จากสถานีสูบน้ำเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้มากและเร็วขึ้น เป็นการเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ เป็นการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวสมุทรปราการให้มากที่สุด