วันที่ 21 มิ.ย.65 นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายสงกรานต์ ชลอศรีทอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมปฐมนิเทศโครงการและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ ปลัดจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่โครงการฯเข้าร่วมประชุมและแสดงความคิดเห็น ณ ห้องประชุมโรงแรมธาราฮิลล์ ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากลุ่มน้ำสะแกกรัง ที่มีอาณาเขตลุ่มน้ำติดต่อหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดกำแพงเพชร ยังไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนเพียงพอที่จะสามารถบริหารจัดการน้ำ และบรรเทาปัญหาการใช้น้ำของลุ่มน้ำ ที่แบ่งออกเป็น 3 ปัญหาหลัก ได้แก่ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาอุทกภัย และปัญหามลพิษทางน้ำ กรมชลประทาน จึงได้พิจารณาแนวทางในการบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในเบื้องต้นได้กำหนดไว้ 2 มาตรการ คือ มาตรการไม่ใช้สิ่งก่อสร้าง เป็นการบริหารจัดการระบบของอาคารชลประทานเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมาตรการใช้สิ่งก่อสร้าง เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนเสริมให้กับแม่น้ำสะแกกรัง
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนแผนหลักการพัฒนาแหล่งน้ำและการชลประทานในลุ่มน้ำสะแกกรัง ศึกษาและจัดทำรายงานความเหมาะสม ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ การจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIMP) รวมถึงการศึกษาจัดทำแบบเบื้องต้นโครงการพื้นที่การระบายน้ำบรรเทาน้ำท่วม อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ และโครงการเชิงพื้นที่การบรรเทาน้ำแล้ง อ.เมืองอุทัยธานี และพื้นที่ข้างเคียง รวมทั้งเพื่อดำเนินงานประชาสัมพันธ์ งานสื่อมวลชนสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน อีกทั้งเป็นการเปิดตัวโครงการฯ ด้วยการนำเสนอความเป็นมา ลักษณะและแนวทางในการศึกษาโครงการฯ ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบ พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางในการพัฒนาโครงการฯ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
อนึ่ง ลุ่มน้ำสะแกกรัง มีพื้นที่ลุ่มน้ำรวมทั้งสิ้น 5,056 ตารางกิโลเมตร ซึ่งขอบเขตพื้นที่การศึกษาของโครงการครอบคลุมพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการ ได้แก่ พื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่หัวงานและอาคารประกอบ พื้นที่ท้ายน้ำ พื้นที่รับประโยชน์ พื้นที่ชลประทาน เมื่อโครงการสร้างแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำสนับสนุนน้ำต้นทุนไว้ใช้เพาะปลูกในพื้นที่การเกษตร การอุปโภคบริโภค รวมทั้งบรรเทาความเสียหายจากอุทกภัย ช่วยลดปัญหาคุณภาพน้ำ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินงานโครงการฯต่อไปในอนาคต