กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวจาก Website สื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ความว่า "น้ำแล้ง ข้าวส่อแห้งตาย ชาวนาปากน้ำโพโอด ต้องซื้อน้ำทำนา ไร่ละ 500 บาท" นั้น
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ได้มอบหมายให้โครงการชลประทานนครสวรรค์ สำนักงานชลประทานที่ 3 ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก่ง (อบต.บ้านแก่ง) เพื่อทำความเข้าใจกับคุณมังกร แหลมเฉียบ ซึ่งเป็นผู้ให้ข่าว มีการเรียกเก็บค่าน้ำทำนาไร่ละ 500 บาท ว่า ค่าใช้จ่ายที่มีการเรียกเก็บเป็นค่ากระแสไฟฟ้าของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่จัดเก็บโดยองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ้านแก่ง ตามข้อตกลงที่ทำให้กับกลุ่มผู้ใช้น้ำ โดยอบต.บ้านแก่ง จะสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้าสบทบ 60% ส่วนอีก 40% กลุ่มผู้ใช้น้ำจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง
สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าว กรมชลประทานได้ถ่ายโอนให้กับองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น (อบต.บ้านแก่ง)ไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2547 (ตามระเบียบกรมชลประทานว่าด้วยการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2550 )
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานนครสวรรค์ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปติดตามสภาพปัญหา และร่วมกันหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไปแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยาในช่วงฤดูแล้งนี้ มีอยู่อย่างจำกัด สามารถสนับสนุนน้ำระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนเมษายน 2565 ได้อย่างเพียงพอเฉพาะการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และพืชต่อเนื่องใช้น้ำน้อยเท่านั้น
ในการนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ "ประหยัดน้ำ เท่ากับ บริจาค" ภายใต้โครงการ "ประหยัดน้ำ ทางรอดต้านแล้ง" เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดทรัพยากรน้ำ ก่อนที่วิกฤติภัยแล้งจะมาถึง และร่วมแรงร่วมใจใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด ตามนโยบายของ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน
#ซื้อน้ำทำนา #RIDTEAM #กรมชลประทาน
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ได้มอบหมายให้โครงการชลประทานนครสวรรค์ สำนักงานชลประทานที่ 3 ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก่ง (อบต.บ้านแก่ง) เพื่อทำความเข้าใจกับคุณมังกร แหลมเฉียบ ซึ่งเป็นผู้ให้ข่าว มีการเรียกเก็บค่าน้ำทำนาไร่ละ 500 บาท ว่า ค่าใช้จ่ายที่มีการเรียกเก็บเป็นค่ากระแสไฟฟ้าของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่จัดเก็บโดยองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ้านแก่ง ตามข้อตกลงที่ทำให้กับกลุ่มผู้ใช้น้ำ โดยอบต.บ้านแก่ง จะสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้าสบทบ 60% ส่วนอีก 40% กลุ่มผู้ใช้น้ำจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง
สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าว กรมชลประทานได้ถ่ายโอนให้กับองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น (อบต.บ้านแก่ง)ไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2547 (ตามระเบียบกรมชลประทานว่าด้วยการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2550 )
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานนครสวรรค์ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปติดตามสภาพปัญหา และร่วมกันหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไปแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยาในช่วงฤดูแล้งนี้ มีอยู่อย่างจำกัด สามารถสนับสนุนน้ำระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนเมษายน 2565 ได้อย่างเพียงพอเฉพาะการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และพืชต่อเนื่องใช้น้ำน้อยเท่านั้น
ในการนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ "ประหยัดน้ำ เท่ากับ บริจาค" ภายใต้โครงการ "ประหยัดน้ำ ทางรอดต้านแล้ง" เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดทรัพยากรน้ำ ก่อนที่วิกฤติภัยแล้งจะมาถึง และร่วมแรงร่วมใจใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด ตามนโยบายของ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน
#ซื้อน้ำทำนา #RIDTEAM #กรมชลประทาน