สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กรมชลประทาน ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยกฎหมาย ฯ

 

 
image-1
IMAGE-2
 
 
 
 
 
 
สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กรมชลประทาน ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยกฎหมาย เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นความเหมาะสมของพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2558
 
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการศึกษาวิจัยความเหมาะสมของพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2558 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กรมชลประทาน ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยกกฎหมาย โดยมี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นางสาวนฤมล สงวนวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปรึกษากฎหมาย มูลนิธิสถาบันวิจัยกฎหมาย ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรม The Royal River Hotel เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
 
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การประชุมรับฟังความคิดเห็นในวันนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน ได้ริเริ่มให้มีการศึกษาผลกระทบของการบังคับใช้กฎหมายและความเหมาะสมของพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2558 เพื่อนำผลการศึกษามาใช้ในการปรับปรุงกฎหมายให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่และตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องเกษตรกรให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สภาพเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละภูมิภาค รวมทั้งหากมีการค้นพบแนวทางใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองต่อการพัฒนาระบบและกระบวนการจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมและการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นแหล่งที่มีความมั่นคงด้านอาหารของโลก
 
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีพื้นที่ทั้งประเทศมีประมาณ 321 ล้านไร่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรมถึง 149.25 ล้านไร่ มีเกษตรกรทั้งสิ้น 8,094,954 ครัวเรือน นโยบายของรัฐบาลรวมทั้งนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบ ให้สามารถแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม การขาดแคลนน้ำภาคการผลิต น้ำอุปโภคบริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำ ซึ่งการพัฒนาและขยายพื้นที่ชลประทานให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรม การจัดระบบการบริหารจัดการแหล่งน้ำ การใช้น้ำ และการบริหารจัดการน้ำในระดับไร่นาและชุมชนที่เชื่อมโยงกับระบบชลประทาน รวมทั้งการจัดรูปที่ดินและพัฒนาพื้นที่ดินให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความมั่นคง และเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านผลผลิตทางการเกษตรกับนานาประเทศได้ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมาย "ภาคเกษตรมั่นคง เกษตรกรมั่งคั่ง ทรัพยากรยั่งยืน
 
ทั้งนี้ การศึกษาผลกระทบของการบังคับใช้กฎหมายฯ นั้นควรมีการรับฟังและปรับปรุงแก้ไขทุก ๆ 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การทำเกษตรกรรม น้ำย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในการทำการเกษตร ซึ่งการมีกรอบ มีกฎหมาย เพื่อกำกับและควบคุมดูแลการบริหารจัดการน้ำ จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในการใช้ทรัพยากรน้ำร่วมกัน การปรับปรุงกฎข้อบังคับต่าง ๆ จึงสมควรที่จะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง รวมถึงควรให้เกษตรกรได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นด้วย และในส่วนของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ หากมีการปรับปรุงแก้ไขและรับฟังความคิดเห็นแล้ว จะสอดคล้องกับสถานการณ์ สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องเกษตรกรไปพร้อม ๆ กัน
 
ในการนี้ นายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กล่าวว่า กรมชลประทาน ร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันวิจัยกฎหมายสถาบันวิจัยกฎหมาย ได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาขึ้นเพื่อศึกษาความเหมาะสมของพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2558 โดยมุ่งหมายที่จะได้รับทราบข้อมูลและข้อเสนอแนะในด้านต่าง ๆ เพื่อมาพัฒนากฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ได้มากขึ้นและตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย ทั้งนี้ ได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาเพื่อแสดงความคิดเห็นกระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งหมด 5 ครั้ง ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ และ กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูล สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่หลากหลาย และได้จัดให้มีการแสดงความคิดเห็นมาแล้ว 4 ครั้ง สำหรับในครั้งนี้เป็นการจัดประชุมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการ คณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลาง สภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และผู้แทนภาคเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ในการศึกษาความเหมาะสมของพระราชบัญญัติการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม พ.ศ. 2558