

วันที่ 13 พ.ย. 64 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ จ.สกลนคร และความก้าวหน้าการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติหนองหาร ณ ห้องประชุมภูมิทัตโต โรงพยาบาลสกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน
สำหรับหนองหาร เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่สำคัญของจังหวัดสกลนคร มีพื้นที่ประมาณ 77,016 ไร่ ความจุ 266 ล้าน ลบ.ม.โดยจะรับน้ำจากลุ่มน้ำพุงและลุ่มน้ำหนองหาร เฉลี่ย 790 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี การบริหารจัดการน้ำจะใช้การเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในลุ่มน้ำให้สอดรับกันตั้งแต่ต้นน้ำ(เขื่อนน้ำพุง) กลางน้ำ(หนองหาร) และปลายน้ำ(ลำน้ำก่ำ) โดยมีประตูระบายน้ำ 5 แห่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำสุรัสวดี ประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง ประตูระบายน้ำบ้านนาขามประตูระบายน้ำบ้านนาคู่ และประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิตร ปัจจุบันประสบปัญหาน้ำหลากในช่วงฤดูฝนบริเวณที่ราบตอนล่างของหนองหาร และปัญหาขาดแคลนน้ำเนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำพุงมีไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง
กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำตัดยอดน้ำจากลำน้ำพุง ก่อนไหลลงหนองหารได้ถึงร้อยละ55 ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมได้ 10,857 ครัวเรือน 33 หมู่บ้าน ทั้งยังเป็นแหล่งเก็บกักน้ำเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้แก่พื้นที่ลำน้ำพุงและลำน้ำก่ำ ตลอดจนเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เกษตรกรรม อุตสหกรรม พื้นที่รับประโยชน์กว่า 78,358 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ของ อ.โคกศรีสุวรรณ จ.สกลนคร ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงท้ายน้ำ ด้วยการเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักในช่วงต้นน้ำ พร้อมจัดจราจรน้ำและวางแผนการส่งน้ำให้สอดคล้องก่อนการระบายลงสู่หนองหาร ช่วงกลางน้ำเพิ่มความจุหนองหารให้มีช่องว่างในการเก็บน้ำส่วนเกินเพิ่มขึ้นช่วยบรรเทาอุทกภัยในฤดูฝน ช่วงปลายน้ำจะทำการขยายปรับปรุงพนังกั้นน้ำก่ำให้สามารถรองรับการระบายน้ำจากหนองหารได้เพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักในช่วงต้นน้ำก่อนไหลลงสู่ลำน้ำก่ำ วางแผนการส่งน้ำให้สอดคล้องก่อนการระบายลงสู่ลำน้ำก่ำและลำน้ำโขงต่อไป
ทั้งนี้ พลเอกประวิตรฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานบูรณาการแผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการได้ในพื้นที่หนองหาร โดยมอบหมายให้จังหวัดสกลนคร กรมชลประทาน กรมประมง ร่วมกันบริหารจัดการหนองหาร เพื่อเป็นเครื่องมือในการรับมือน้ำท่วมและจัดสรรน้ำที่มีอยู่ในลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดนครพนม และใช้น้ำที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งให้ร่วมกันขับเคลื่อนแผนงานการปรับปรุง ฟื้นฟู หนองหาร ที่ได้วางแผนไว้ให้ไปสู่การปฏิบัติให้ได้จริงตามแผนหลักที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยให้ สทนช. กำกับ เร่งรัดการดำเนินงาน โดยเฉพาะแผนงานเร่งด่วน และแผนงานที่ไม่ได้รับงบประมาณ ให้เสนอเข้าแผนงบประมาณในปี 2566 รวมไปถึงร่วมกันแก้ปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในระยะยาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุดอีกด้วย