

วันที่ 29 กันยายน 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายสุชาติ เจริญศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิว่า ปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้ง 16 อำเภอ หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปะทาว(ล่าง) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 18 ล้าน ลบ.ม. หรือ 110 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้น(Spillway) 0.34 เมตร แนวโน้มลดลง และอ่างเก็บน้ำลำคันฉู มีปริมาณน้ำ 45 ล้าน ลบ.ม. หรือ 106 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลผ่านอาคารระบายน้ำล้น 3 ล้าน ลบ.ม. /วัน คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มน้ำในอ่างฯจะลดลงอยู่ในระดับเก็บกักที่ 42.6 ล้าน ลบ.ม. ภายใน 5 - 7 วันนี้
สำหรับการช่วยเหลือ โครงการชลประทานชัยภูมิ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่จำนวน 8 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ นอกจากนี้ยังคงใช้เครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง ช่วยผลักดันน้ำลงแม่น้ำชีบริเวณสะพานข้ามลำห้วยลำปะทาว ถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา โดยได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์น้ำจะยังทรงตัวและลดลงในบางพื้นที่ในระยะต่อไป
โดยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำลำน้ำชี ลุ่มน้ำลำคันฉู และลุ่มน้ำลำปะทาว ซึ่งน้ำจากทั้ง 3 ลุ่มน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำชี นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติเปิดโครงการในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 5 โครงการ วงเงินงบประมาณกว่า 14,000 ล้านบาท ในพื้นที่ต้นน้ำ ลุ่มน้ำลำน้ำชี ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำสะพุง อ่างเก็บน้ำลำเจียง อ่างเก็บน้ำลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอ่างเก็บน้ำพระอาจารย์จื่อ (ลำกระจวน) ส่วนอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร กรมชลประทานดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว รวม 5 อ่างฯจะได้ปริมาณน้ำ 270 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนในพื้นที่กลางน้ำ ลุ่มน้ำลำปะทาว กรมชลประทานจะดำเนินการโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ สามารถผันน้ำเลี่ยงเมืองชัยภูมิ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เมื่อแล้วเสร็จช่วยลดปัญหาการเกิดอุทกภัยได้
ในส่วนโครงการพัฒนาหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่บึงละหาน ปัจจุบันประสบปัญหาตื้นเขิน ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กรมชลประทานจะดำเนินการศึกษาโครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา สำรวจ ออกแบบ และทำกิจกรรมการมีส่วนร่วม เพื่อเสนอให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเสนอกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเปิดโครงการในขั้นต่อไป
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนพร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานราชการในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและเร่งให้การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้เร็วที่สุด ตลอดจนฝากดูแลสภาพจิตใจของประชาชนที่อาจเกิดความเครียดในช่วงเวลานี้ ส่วนการเดินทางสัญจรของพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูง ให้ใช้รถบรรทุกยกสูงของทหาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่หน่วยงานราชการในพื้นที่ได้ทันที