วันที่ 14 มี.ค.65 ที่สำนักงานชลประทานที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปมอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ให้กับโครงการชลประทานทั่วประเทศ ผ่านระบบ VDO Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 เน้นย้ำให้บริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคต้องเพียงพอไม่ขาดแคลนตลอดฤดูแล้งนี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (13 มี.ค.65) ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง มีปริมาณน้ำ รวมกันทั้งสิ้น 50,108 ล้าน ลบ.ม. (66% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 26,170 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 15,101 ล้าน ลบ.ม. (68% ของแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 64/65) เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 11,711 ล้าน ลบ.ม. (47% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 5,015 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 4,243 ล้าน ลบ.ม. (74% ของแผนฯ) ผลการทำนาปรังในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้งประเทศมีการทำนาปรังไปแล้วกว่า 7.54 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 117 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วประมาณ 4.40 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 156 ของแผนฯ จึงขอความร่วมมือจากเกษตรกร หากเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว ให้งดการทำนาต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ด้าน ดร.เฉลิมชัยฯ ได้มอบนโยบายให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ วางแผนการใช้น้ำอย่างรัดกุมและประณีต สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมควบคุมแผนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งนี้อย่างเคร่งครัด ย้ำน้ำอุปโภคบริโภคต้องไม่ขาดแคลนและเพียงพอ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมชลประทาน วิเคราะห์ศึกษาพื้นที่ที่สามารถเพิ่มเป็นพื้นที่ชลประทานได้ ควบคู่ไปกับการสำรวจพื้นที่เพื่อเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำในรูปแบบแก้มลิง ที่สำคัญให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า