องคมนตรี ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดน่าน

472699243 1027863819386691 8305866527727355913 n

472431035 1027864692719937 3631100578657311940 n

 

472572858 1027864729386600 6783232506000087060 n

472742381 1027864829386590 2277966232709153641 n

 

         วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ และที่ปรึกษาฯ เดินทางไปติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดน่าน โดยมีนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) นายวัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) นายนพดล น้อยไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายไพโรจน์ วงศ์สูง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานน่าน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามผลการดำเนินงาน
 
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านสบขุ่น ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
 
โดยเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2547 สมเด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ต้นน้ำลำน้ำคาง บริเวณบ้านสบขุ่น หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ทรงพบว่า ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ต้นน้ำ และถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำไร่หมุนเวียน ส่งผลให้พื้นที่ต้นน้ำได้รับความเสียหาย ทำให้ราษฎรบ้านสบขุ่น และบ้านดอยติ้ว เริ่มตระหนักถึงความเสียหายและผลกระทบที่เกิดจากการบุกรุกทำลายป่า จึงขอพระราชทานความช่วยเหลือโดยขอให้มีการจัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงเพื่อให้มีเจ้าหน้าที่มาช่วยแนะนำให้ราษฎรใช้พื้นที่ทำการเกษตรอย่างเหมาะสม เพื่อลดพื้นที่บุกรุกทำลายป่าต่อไป สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมพัฒนาชุมชน และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) มาร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว และทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้น โดยขอใช้พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถางบริเวณริมมลำน้ำคาง บ้านสบขุ่น หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โดยให้ราษฎรหมู่บ้านสบขุ่น และราษฎรบ้านดอยติ้ว ได้เข้ามามีส่วนร่วมดำเนินงานโครงการ และเรียนรู้การทำการเกษตรที่สูงได้อย่างเหมาะสม
 
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่นั้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชดำริให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหาพื้นที่และดำเนินการทดลองขยายพันธุ์ไม้ดอกและไม้ผล แล้วนำไปขยายผลในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกัน โดยให้ประสานกับศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการดำเนินการต่อไป โดยกรมชลประทานจะดำเนินการก่อสร้างฝายทดน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ บ้านสบขุ่น พร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานการทดลองขยายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ผล และเป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมปรับปรุงระบบส่งน้ำฝายน้ำวาว ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
 
นอกจากนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ยังได้เชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวมอบให้แก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 362 ตัว ถุงพระราชทานมอบให้แก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการฯ รวม 337 ถุง อีกด้วย
 
ต่อมาช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะ เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนบ้านสว่าง ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ได้เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยความมั่นคง จำนวน 38 ถุง พร้อมรับฟังสรุปผลการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง
 
จากนั้น องคมนตรีและคณะ เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำแหงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลนาน้อย อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ในการนี้ นายนพดล น้อยไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 ได้บรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดน่าน ทั้งหมดจำนวน 91 โครงการ แบ่งเป็นโครงการในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จำนวน 89 โครงการ ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จทุกโครงการ และโครงการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 2 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 1 โครงการ และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม จำนวน 1โครงการ
 
ต่อมา นายไพโรจน์ วงศ์สูง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานน่าน ได้บรรยายผลการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำแหงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2524 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำต้วนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน และทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ โดยให้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำแหง ในเขตอำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โดยเร่งด่วนที่สุด ตามที่ราษฎรได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2524 เนื่องจากราษฎรในเขตอ่างเก็บน้ำที่ถูกน้ำท่วมจะให้ความร่วมมือไม่เรียกร้องค่าทดแทนและค่าเสียหายเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกน้ำท่วมแต่ประการใด โดยชมรมลูกเสือชาวบ้านสุขาภิบาลรุ่นที่ 1 อำเภอนาน้อย หรือรุ่นที่ 81 ของจังหวัดน่าน จะร่วมกับฝ่ายจังหวัดดำเนินการประสานงานกับราษฎรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำแหงฯ มีความจุที่ระดับเก็บกัก 13 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมระบบคลองส่งน้ำ ความยาวรวม 20.873 กิโลเมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 6,896 ไร่ พื้นที่ชลประทาน 5,105 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จำนวน 3 ตำบล 24 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลนาน้อย จำนวน 10 หมู่บ้าน 2,135 ครัวเรือน ตำบลเชียงของ จำนวน 10 หมู่บ้าน 2,750 ครัวเรือน และตำบลศรีษะเกษ
 
ปัจจุบันมีการขยายตัวของพื้นที่การเกษตรเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานจึงได้ดำเนินการเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำอ่างเก็บน้ำน้ำแหงฯ โดยการปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น โดยการติดตั้งฝายแบบพับได้ (Flap Gate Weir) ซึ่งจะควบคุมฝายผ่านระบบคอมพิวเตอรตามความต้องการของผู้ใช้งาน ดังนั้นในช่วงฤดูฝนจึงสามารถระบายน้ำส่วนที่เกินความจุของตัวอ่างเก็บน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้นได้ตามเดิม และปรับให้ฝายตั้งขึ้นเพื่อเก็บกักน้ำได้ด้วย ทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.73 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลการดำเนินงานปัจจุบัน ร้อยละ 84.89 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2568