สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

431909303 808478051326801 4070695628694291826 n

431955530 808478064660133 8480742097469975471 n

 

432664648 808478384660101 6109196970614826378 n

432671565 808478157993457 6013907727016040320 n

 

          วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.10 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน นายวิวัธน์ชัย คงลำธาร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 13 นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายประศาสน์ สุขอินทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาญจนบุรี และคณะเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
 
ในการนี้ นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน ได้กราบบังคมทูลรายงานการบริหารจัดการน้ำสนับสนุนโครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดังนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่ โดยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาขอบนอกของพื้นที่ จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย 1) อ่างเก็บน้ำห้วยพุตะเคียน 2) อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ระวัง 3) อ่างเก็บน้ำห้วยหวาย 4) อ่างเก็บน้ำเขาพุช้างหมอบ และ 5) อ่างเก็บน้ำห้วยพุช้างหมอบ รวมความจุ 7,700,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำใช้การ 2,300,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของความจุอ่างเก็บน้ำ สามารถส่งน้ำเข้าพื้นที่ชลประทาน 10,700 ไร่ ด้วยวิธี Gravity ผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่ ความยาวรวม 23.702 กิโลเมตร และท่อส่งน้ำสายซอยความยาวรวม 63.576 กิโลเมตร อีกทั้งยังก่อสร้างฝายทดน้ำ จำนวน 9 แห่ง และบ่อพักน้ำ จำนวน 4 แห่ง เพื่อเก็บกักน้ำฝน และน้ำส่วนเกินจากการส่งน้ำ สำหรับการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ นั้น แบ่งเป็น กรณีมีน้ำมากกว่าร้อยละ 50 ของความจุอ่างเก็บน้ำ ก็จะแบ่งการส่งน้ำ ดังนี้ ในฤดูแล้งจะส่งน้ำเดือนละ 7 - 10 วัน ซึ่งจะเริ่มส่งน้ำทุกวันที่ 5 ของเดือน ให้เกษตรกรนำไปเก็บไว้ในสระเก็บน้ำประจำไร่นาของตนเอง เพื่อใช้ให้ถึงรอบเวรในการรับน้ำในเดือนถัดไป และในฤดูฝนจะใช้น้ำจากน้ำฝนเป็นหลัก หากฝนทิ้งช่วง จึงจะส่งน้ำตามความเหมาะสม และกรณีมีน้ำน้อยกว่าร้อยละ 50 ของความจุอ่างเก็บน้ำ จะประชุมร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้ใช้น้ำและเจ้าหน้าที่ชลประทาน เพื่อกำหนดรอบเวรการส่งน้ำตามความเหมาะสม และเพียงพอต่อความต้องการของราษฎร โดยเน้นเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลักก่อน