จากการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
วันนี้ ( 2 กันยายน 2568 ) กรมชลประทานได้นำสื่อมวลชนและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจจุดดำเนินงานตามแผนงานบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่ เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมโยงถึงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา
นายรุทร์ อินนุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กล่าวถึงบทบาทของสำนักงานฯ ในการรับผิดชอบงานก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว โดยระบุว่า พื้นที่ตั้งของโครงการอยู่บริเวณต้นน้ำของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่ มีลำน้ำสาขาหลายสาย และมีปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายปีสูงถึง 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร
เนื่องจากพื้นที่ด้านล่างของลุ่มน้ำมีลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำจะไหลลงจากพื้นที่สูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คลองอู่ตะเภาไม่สามารถรองรับน้ำได้ทัน จนน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน รวมถึงเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ในอดีต
กรมชลประทานได้ดำเนินการตามแนวทางพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยการจัดทำ “โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่ ระยะที่ 2” ซึ่งดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2558–2565 และได้ก่อสร้างคลองระบายน้ำสายที่ 1 หรือ คลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำจาก 465 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งช่วยลดความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่างอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในสถานการณ์อุทกภัยปี 2567 ที่ผ่านมา
เพื่อเสริมมาตรการควบคุมน้ำอย่างครบวงจร กรมชลประทานจึงได้วางแผน “ตัดยอดน้ำ” จากต้นน้ำโดยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว หัวงานตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 บ้านบางกม ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา และหมู่ที่ 6 บ้านเก่าร้าง ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา สามารถเก็บน้ำได้ 17.89 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำหน้าที่กักเก็บน้ำในช่วงน้ำหลาก อีกทั้งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร ให้แก่พื้นที่รับประโยชน์ 23,000 ไร่
โครงการอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว จึงถือเป็นอีกหนึ่งความหวังสำคัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ที่จะช่วยบรรเทาทั้งภาวะน้ำหลาก และความขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง
สำหรับแผนการดำเนินงานถัดไป กรมชลประทานดำเนินการในส่วนของ การสำรวจ ออกแบบ จัดหาที่ดิน และคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2572 เป็นต้นไป