ฝนตกชุกตอนบน ทำให้น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ทยอยปรับการระบาย ลดผลกระทบประชาชน

 

499553034 1108789557962314 5986835086419060219 n

500059377 1108789754628961 4108960131229312111 n

501435036 1108789644628972 7573295318831662488 n

 

        กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เช้าวันนี้ (27 พ.ค. 68) เวลา 06.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,053 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 5.65 เมตร ควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน น้ำท่า


🚨กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เริ่มเวลา 09.00 น. จากอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 700 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน ที่อยู่บริเวณนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนแม่น้ำน้อย (ต.หัวเวียง อ.เสนา) , ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับปริมาณน้ำ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 12,789 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ รวมกันประมาณ 91.39 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีกกว่า 12,082 ล้าน ลบ.ม.


ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ตอนบนอย่างเต็มศักยภาพ หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด